top of page

เพชร CVD HPHT คืออะไร

เพชร CVD HPHT กับ เพชรธรรมชาติ ต่างกันอย่างไร

         ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีเพชรทางเลือกมากมายหลากหลายรูปแบบออกมาสู่ตลาดเครื่องประดับ ผู้ซื้อจึงมีทางเลือกในการซื้อ เพชร สำหรับแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน หลากหลายทางเลือกยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Lab-Grown Diamond (เพชร CVD/HPHT) นั่นเอง

เพชรจากแล็บเหล่านี้ ได้กลายเป็นที่เริ่มสนใจมากขึ้นในบางประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

          เนื่องจากความเหมือนกับเพชรธรรมชาติ เพราะเป็นเรื่องยากที่คนทั่วไปจะสามารถแยกแยะได้ด้วยตาเปล่า หากไม่มีเครื่องมือพิเศษในการช่วยตรวจ อีกทั้งยังมีราคาที่ต่ำกว่าเพชรธรรมชาติถึง 60-70% จึงมีหลายท่านที่มีงบจำกัดตัดสินใจซื้อเพชร Lab-Grown Diamond เพราะอาจได้เพชรที่ขนาดใหญ่ขึ้นในงบประมาณเดียวกัน

ในขณะที่ประเทศไทย เพชร Lab-Grown Diamond เพิ่งจะเป็นที่รู้จัก

เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เราจึงขอจำแนกเพชรเป็น 3 ประเภทหลักๆดังนี้:

  1. เพชรธรรมชาติ หรือเพชรแท้ (Natural Diamond)

  2. เพชรสังเคราะห์ / ของเทียมเพชร (CZ, Moissanite)

  3. เพชร Lab-Grown Diamond (CVD, HPHT)

เพชร

​1. เพชรธรรมชาติ

          เกิดขึ้นจากการก่อตัวขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อนลึกลงไปใต้เปลือกโลก ภายใต้ผื้นผิวโลกที่มีความร้อนและความดันที่สูงมาก ซึ่งทําให้อะตอมของคาร์บอนตกผลึกกลายเป็นเพชร ในระดับความลึกประมาณ 150-200 กม. ใต้พื้นผิวโลก ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ย 900-1,300°C และแรงดันอยู่ที่ 45-60 กิโลบาร์ (ซึ่งประมาณ 50,000 เท่าของความดันบรรยากาศที่พื้นผิวโลก)

ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้จึงมีการตกผลึกกลายมาเป็นเพชร รูปผลึกทรงแปดด้าน ใส มีสีต่างๆจนถึงไม่มีสี และถือว่าเป็นอัญมณีที่แข็งที่สุด เพชรถูกนำขึ้นมาจากใต้พื้นดินโดยผ่านการปะทุของหินหนืด (magma) ขึ้นมาสู่ผิวโลก

2. เพชรสังเคราะห์ / ของเทียมเพชร (CZ, Moissanite)

          เพชรสังเคราะห์ เพชร CZ (Cubic Zirconia) หรือที่เรารู้จักกันในนาม เพชรรัสเซีย หรือเพชรสวิส เดิมทีได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อใช้ทดแทนสำหรับเพชรธรรมชาติ เพื่อใส่บนเครื่องประดับเงินหรือแนวแฟชั่นที่เพราะมีราคาถูก ส่วนใหญ่จะใช้กับเครื่องประดับในงบหลักร้อยถึงหลักพัน เพราะมีคุณสมบัติที่มองเห็นด้วยตาเปล่าคล้ายกับเพชรธรรมชาติ ทำให้ผู้ซื้อเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเพชร CZ นั้นสามารถแยกแยกได้ด้วยตาเปล่าไม่ยากหากเป็นผู้เชี่ยวชาญ หลังจากนั้นจึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพชรสังเคราะห์มีลักษณะใกช้เคียงกับเพชรแท้มายิ่งขึ้น จึงเกิดเป็นเพชรโมอีส หรือชื่อเต็มๆ ว่าเพชรมอยส์ซอไนต์ (Moissanite) ซึ่งเกิดจากแร่ซิลิคอนคาร์ไบต์ (Silicon Carbide) ซึ่งเป็นแร่ที่หายาก ค้นพบครั้งแรกที่หลุมอุกกาบาต เพชรเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีความสวยมากกว่าเพชร CZ เล่นไฟมากกว่า เหลี่ยมสวยกว่า แต่ก็ยังสามารถดูออกได้ไม่ยากนัก

สรุปคือ เพชรสังเคราะห์ หรือ ของเทียมเพชร  เราสามารถแยกแยะเพชรสังเคราะห์ได้ด้วยตาเปล่า

3. เพชร Lab-Grown Diamond (HPHT, CVD)

          เพชร Lab-Grown เป็นการพัฒนาอีกขั้นของนวัตกรรม เพชร Lab-Grown เกิดจากการตกผลึกของธาตุคาร์บอนในห้องทดลองที่ถูกควบคุมให้อยู่ภายใต้สภาวะที่คล้ายคลึงกันกับการเกิดของเพชรธรรมชาติ โดยที่เพชร Lab-Grown นั้นสามารถเพาะขึ้นได้จาก 2 วิธีด้วยกัน ดังนี้

 

         3.1. เพชร HPHT (High-Pressure High Temperature)

เพชร HPHT เป็นวิธีการในยุคแรกๆของการผลิตเพชร Lab-Grown โดยเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950s นอกเหนือจากผลิตเพชรแล้ว กระบวนการผลิตเพชร HPHT ยังสามารถใช้เพื่อปรับแต่งความสะอาดและสีเพชรของเพชรธรรมชาติให้น้ำสูงขึ้น หรือมีสีสันต่างๆ เช่น ชมพู เขียว น้ําเงิน หรือเหลือง เป็นต้น

วิธีการสร้างเพชร HPHT คือการนำเมล็ดเพชรขนาดเล็กจะถูกวางลงในคาร์บอน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเพาะเพชร เมล็ดเพชรสัมผัสกับความร้อนและแรงกดสูง โดยจําลองวิธีที่เพชรเติบโตตามธรรมชาติใต้พื้นผิวโลก เมื่อสัมผัสกับความร้อนสูงถึง 1,500°C และแรงดันที่สูงมาก คาร์บอนจะละลายและก่อตัวเป็นเพชรรอบเมล็ด เมื่อก้อนเพชรเย็นลงก็จะกลายเป็นเพชรคาร์บอนบริสุทธิ์ ในรูปทรง 14 เหลี่ยม (cuboctahedron)

 

          3.2. เพชร CVD (Chemical Vapor Deposition)

เพชร CVD ได้รับการคิดค้นขึ้นในห้องแล็บในปี ค.ศ.1980s ซึ่งถือว่าเป็นวิวัฒนาการที่ใหม่กว่า HPHT เพราะใช้แรงดันน้อยกว่าและเครื่องจักรที่เล็กกว่าในการผลิต ทำให้มีต้นทุนการผลิตที่ถูกลง

วิธีการสร้างเพชรแบบ CVD คือการนำเมล็ดเพชรใส่ในห้องระบบปิดที่มีความร้อนสูงถึง 800°C อัดก๊าซที่มีคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป จนแตกตัวเป็นไอออน ส่งผลให้คาร์บอนบริสุทธิ์ลอยไปเกาะตัวกับเมล็ด และค่อยๆตกผลึกกลายเป็นเพชรในรูปทรงลูกบาศก์
         

rough-diamond-shape.jpeg

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วเพชรแท้, เพชรCVD กับ เพชรHPHT แทบจะไม่มีความแตกต่าง นอกจากกระบวนการเกิดจากธรรมชาติ หรือ เพาะเพชรในแล็บที่แตกต่างกัน เพราะหลังจากที่เพชรได้รับการเจียระไนแล้ว เราแทบจะไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างเพชรแท้, เพชร HPHT กับ เพชรCVD ได้เลย  ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นเพชรแท้เหมือนกัน ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือเพชร Lab-grown เกิดจากการสร้างขึ้นโดยมนุษย์และควบคุมในห้องปฏิบัติการ ในขณะที่เพชรธรรมชาติถูกสร้างขึ้นจากใต้ผิวโลกนั้นเอง

 

   "เพชรธรรมชาติเปรียบเสมือนกับต้นไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยผ่านกาลเวลา ส่วนเพชร Lab-Grwon คือการนำเมล็ดพืชไปเพาะปลูกอยู่ในห้องแล็บโดยการใส่ปุ๋ยเคมี และควบคุมแสงแดดและอากาศให้เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งสองก็ต่างเป็นต้นไม้เหมือนกัน แต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเรื่องแหล่งกำเนิดและระยะเวลา"

bottom of page